นานาชาติเรียกร้องการเจรจา แต่คู่ขัดแย้งที่เป็นกองทัพทั้งสองฝ่ายยังไม่มีแนวโน้มว่าจะยอมเปิดการเจรจา ส่งผลให้เกิดความกังวลว่าความขัดแย้งนี้อาจขยายวงกว้างเป็นสงครามกลางเมืองเต็มรูปแบบ
แสงสว่างที่เกิดจากการยิงกระสุนปืนใหญ่ขึ้นไปบนท้องฟ้าเหนือกรุงคาร์ทูม เมืองหลวงของซูดานในช่วงกลางดึกวันจันทร์ที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา
แม้จะไม่มีการยืนยันว่านี่เป็นการยิงจากฝ่ายใด แต่ก็เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าการสู้รบระหว่างกองทัพซูดานและกองกำลัง RSF ยังคงหนักหน่วง และขณะนี้กรุงคาร์ทูมเป็นสมรภูมิที่เสียหายหนักที่สุด
กองทัพซูดาน ปะทะเดือดกองกำลังกึ่งทหาร กลางเมืองคาร์ทูม
แย่งชิงอำนาจ! "ซูดาน"ปะทะเดือดต่อเนื่องวันที่สาม เสียชีวิตแล้วเกือบ 100 ราย
ส่วนที่เห็นนี้คือภาพจากเขตที่พักอาศัยเขตหนึ่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงคาร์ทูม จากภาพจะได้ยินเสียงปืนและเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ภาพถ่ายดาวเทียมเผยให้เห็นความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสนามบินนานาชาติในกรุงคาร์ทูม เครื่องบินจำนวนหนึ่งไหม้เกรียมและพังเสียหายจากกระสุนปืนใหญ่และระเบิด รวมถึงอาคารที่อยู่ใกล้ๆ ก็ถูกโจมตีไปด้วย
ส่วนภาพนี้แสดงให้เห็นพื้นที่อื่นๆ ของกรุงคาร์ทูมที่ได้รับความเสียหายจากการโจมตี อีกทั้งยังเห็นรถถังปรากฏอยู่หลายจุดของเมือง
หนึ่งในอาคารสำคัญที่ถูกโจมตีคือ อาคารของกระทรวงศึกษาธิการ และโรงพยาบาลบางแห่ง ส่งผลให้หลายฝ่ายกังวลว่า การสู้รบครั้งนี้อาจกระทบต่อระบบสาธารณสุขของประเทศ
การสู้รบที่ดำเนินต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 4 ระหว่างกองทัพซูดานกับกองกำลัง RSF ส่งผลให้ประชาชนจำนวนหลายล้านคนในเมืองนี้ต้องตกอยู่ในสภาพไม่ต่างจากการเป็นตัวประกันท่ามกลางห่ากระสุนจากทหาร
หลายครอบครัวกำลังขาดแคลนเสบียงอาหารและน้ำดื่ม เนื่องจากไม่มีใครคาดคิดว่าจู่ๆ ทหารจะลุกขึ้นมาต่อสู้กันเอง จึงไม่มีใครตุนข้าวของจำเป็นและอาหารไว้ น้ำดื่มเป็นปัญหาใหญ่ เพราะชาวบ้านจำนวนมากกำลังขาดแคลน
มีคลิปวิดีโอหนึ่งที่โพสต์ลงโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นว่าในร้านค้าเหลือน้ำดื่มเพียงแกลลอนเดียวเท่านั้น ส่วนในตู้แช่น้ำดื่มเหลือเพียงความว่างเปล่า
อีกเสียงจากชาวบ้านในกรุงคาร์ทูมที่พยายามบอกเล่าความยากลำบากตลอดช่วงสี่วันที่ผ่านมาให้โลกภายนอกรับรู้
ทากรีด อับดิน สถาปนิกหญิงที่หลบภัยอยู่ในบ้านระบุว่า การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับประชาชนเลย และชาวบ้านอย่างพวกเธอไม่ได้เลือกข้างฝ่ายใด แต่คนธรรมดาต้องมารับกรรมจากการติดอยู่ตรงกลางระหว่างการต่อสู้กองกองทัพ
ท่ามกลางสถานการณ์วุ่นวาย ยอดผู้เสียชีวิตและยอดผู้ได้รับบาดเจ็บยังไม่สามารถประเมินได้ แต่เบื้องต้นรายงานข่าวระบุว่า จากการสู้รบตลอด 4 วันที่ผ่านมา จำนวนผู้เสียชีวิตน่าจะอยู่ที่อย่างน้อย 185 ราย ส่วนจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ที่อย่างน้อย 1,800 ราย
คาดกันว่าจำนวนผู้เสียชีวิตมีมากกว่านี้ เพราะมีรายงานว่า พบร่างผู้เสียชีวิตอยู่ตามท้องถนน แต่เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นสมรภูมิ จึงไม่สามารถเข้าถึงหรือเก็บกู้ศพได้
สถานการณ์เป็นตายในเมืองเท่ากัน ทำให้ชาวซูดานจำนวนหนึ่งพยายามอพยพหนีการสู้รบในกรุงคาร์ทูม เช่น ครอบครัวนี้
พวกเขาระบุว่า ได้เก็บของเท่าที่จำเป็นแล้วและจะขับรถไปกบดานยังเมืองอื่นชั่วคราวก่อน รอให้กองทัพซูดานประกาศชัยชนะเหนือกองกำลัง RSF เสียก่อนจึงค่อยกลับเข้ามายังกรุงคาร์ทูมอีกครั้ง
แม้ซูดานจะเผชิญกับรัฐประหาร และความวุ่นวายทางการเมืองมาแล้วหลายครั้ง
แต่นี่เป็นครั้งแรกที่จู่ๆ ทหารลุกขึ้นมาห้ำหั่นกันด้วยอาวุธ ทั้งสองฝ่ายเชี่ยวชาญและใช้อาวุธหนักอย่างระเบิดและปืนใหญ่ โดยมีประชาชนจำนวนมากติดอยู่ตรงกลางความขัดแย้ง
ต้นตอของการสู้รบครั้งนี้มาจากความพยายามแย่งชิงอำนาจกันระหว่างทหาร หลังเมื่อปี 2019 ซูดานโค่นล้มโอมาร์ อัล-บาเชียร์ อดีตผู้นำจอมเผด็จการลงได้ และหลังจากนั้นสังคมซูดานก็ถูกปกครองและขับเคลื่อนโดยทหาร และเป็นทหารนี้เองที่พยายามเปลี่ยนถ่ายอำนาจ ตลอดจนขัดขากันจนนำมาสู่การสู้รบล่าสุด
ต้นตอความขัดแย้งมาจากพลเอกอับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์ฮาน ซึ่งเป็นประธานาธิบดีรักษาการและผู้นำกองทัพซูดาน กับพลเอก โมฮาเหม็ด ฮัมดัน ดากาโล เฮเม็ดติ ผู้บัญชาการกองกำลัง RSF
ทั้งสองถือเป็นผู้กุมอำนาจสูงสุดของซูดานในเวลานี้ เนื่องจากหลังซูดานโค่นล้มอดีตผู้นำเผด็จการลงได้ การเมืองของประเทศเผชิญกับภาวะสูญญากาศในช่วงเปลี่ยนผ่าน
ต่อมาเมื่อการถ่ายอำนาจไม่ลงรอยกันระหว่างทหารและรัฐบาลพลเรือน โดยเฉพาะในประเด็นการลดอำนาจของทหารลง ส่งผลให้พลเอกอับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์ฮานก่อรัฐประหารในเดือนตุลาคม ปี 2021 หลังจากนั้นซูดานก็อยู่ภายใต้การบริหารของสภาที่นำโดยบรรดาผู้นำทางทหาร
หลังจากนั้นนายพลทั้งสองก็เริ่มแตกคอกัน หลังจากมีความพยายามรวมกองทัพซูดานและกองกำลัง RSF เข้าเป็นกองกำลังหนึ่งเดียวกันในฐานะโรดแมปที่จะพาประเทศกลับไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย
แต่ปัญหาก็คือทั้งนายพลอัล-บูร์ฮานและนายพลเฮเม็ดติ ต่างไม่ต้องการตกอยู่ภายใต้อำนาจและสายการบังคับบัญชาของอีกฝ่าย ขณะที่สมาชิกของกองกำลัง RSF ก็ไม่ต้องการตกเป็นเบี้ยล่างหรือเป็นกำลังพลชั้นสอง รองจากทหารในกองทัพซูดานเช่นกัน
สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้นเมื่อเข้าสู่เดือนเมษายน ก่อนหน้าที่จะเกิดการสู้รบกันขึ้นในวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา สำนักข่าว AfricaNews เคยรายงานว่า กองกำลังทั้งสองฝ่ายตรึงกำลังทหารในเมืองหลวง และขนอาวุธหนักเข้ามาประจำการ จนในที่สุดความขัดแย้งก็ปะทุเป็นการสู้รบตามที่หลายฝ่ายหวาดหวั่น
ด้านโฟลเคอร์ เพอร์เธส ผู้แทนพิเศษชาวเยอรมันของเลขาธิการองค์การสหประชาชาติประจำซูดานออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้คู่ขัดแย้งทั้งสองฝ่ายยังไม่เปิดโอกาสที่จะเจรจาสันติภาพใดๆ แม้สหประชาชาติและประชาคมโลกจะเรียกร้องให้ทั้งสองกองทัพยุติการสู้รบ
สหรัฐฯ เป็นอีกชาติที่พยายามเรียกร้องการเจรจาเพื่อสันติภาพ อีกทั้งยังได้รับความเสียหายจากการสู้รบด้วย
แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการเปิดเผยว่า ขบวนรถทางการทูตของสหรัฐฯในซูดานถูกกระสุนไม่ทราบฝ่ายยิงใส่ แต่โชคยังดีที่ทุกคนในขบวนรถปลอดภัย
รวมถึงเผยว่า ตัวเขาได้โทรศัพท์ถึงพลเอกจากทั้งสองกองทัพ เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบต่อข้อตกลงหยุดยิงเป็นเวลา 24 ชั่วโมงเพื่อเปิดทางให้ชาวซูดานที่หลบภัยอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ได้มีโอกาสเดินทางกลับไปหาครอบครัวของตัวเองได้อย่างปลอดภัย และสามารถออกไปหาเสบียงอาหารและของใช้ที่จำเป็นได้
ก่อนหน้านี้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กลุ่มสันนิบาตอาหรับก็ได้ออกมาเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิง
อีกทั้งยังเรียกร้องการเจรจาโดยเร็วที่สุด สะท้อนว่านานาชาติกำลังหวาดหวั่นอย่างยิ่งว่า การสู้รบในซูดานอาจลุกลามบานปลายเป็นสงครามกลางเมืองซ้ำเติมปัญหาความยากจนและภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่กระทบต่อชาวซูดานเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ล่าสุดมีรายงานจากกองกำลัง RSF และกองทัพซูดานว่า ทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมกันที่จะหยุดยิง 24 ชั่วโมง เพื่อเปิดทางให้ประชาชนในเมืองอพยพ โดยกำหนดชั่วโมงเริ่มต้นไว้ในเวลา 18.00 น. ของวันนี้คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง